บีทีเอส กรุ๊ปฯ เตรียมออกหุ้นกู้เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไปจำนวน 4 รุ่น ดอกเบี้ยระหว่าง [3.60 – 4.95]% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ “A-”

กลับ

กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2566 - บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ เตรียมออกหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี รุ่นอายุ 5 ปี รุ่นอายุ 10 ปี และรุ่นอายุ 12 ปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน 2566 มั่นใจได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้ที่อยู่ในกลุ่ม “ระดับลงทุน” โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “A-” จากทริสเรทติ้ง และบริษัทฯ มีศักยภาพในการขยายธุรกิจที่หลากหลายที่มากกว่าการให้บริการระบบขนส่งมวลชน ด้วยกลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH

นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.60-3.90]% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.20-4.50]% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.60-4.90]% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.75-4.95]% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยจะประกาศผลตอบแทนที่แน่นอนให้ทราบในภายหลัง ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยคาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A-” เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ โดยมีแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ จากการมีรายได้ค่าบริการที่สม่ำเสมอจากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (รายได้จากการให้บริการ O&M) ตลอดจนการมีกระแสเงินสดรับจำนวนมากจากการลงทุนในสัดส่วน 33.33% ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF) และสถานะที่มั่นคงในธุรกิจสื่อโฆษณาของบริษัทฯ

ทั้งนี้ จากแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” นั้น ทริสเรทติ้ง ให้เหตุผลว่า สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ O&M และการฟื้นตัวของธุรกิจสื่อโฆษณา นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งที่กรุงเทพมหานครจะจ่ายคืนหนี้ที่ค้างอยู่ให้แก่บริษัทในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

ปัจจุบัน บีทีเอส กรุ๊ปฯ ดำเนินธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1) ธุรกิจ MOVE ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการคมนาคมแบบ door-to-door แก่ผู้โดยสารด้วยรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางราง ทางถนน ทางน้ำหรือทางอากาศ และเป็นผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี 2) ธุรกิจ MIX หรือผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ Offline-to-Online โซลูชั่นส์ ที่ได้นำการใช้ Smart DATA ในการเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกว่า 40 ล้านรายการจากแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา (Advertising) ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล (Digital Services) ธุรกิจการจัดจำหน่าย (Distribution) และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดบริการด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในทุก ๆ จุดของการเดินทางเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และ 3) ธุรกิจ MATCH ที่เป็นการแสวงหาโอกาสและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์มของบริษัทฯ MOVE และ MIX ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ

“ณ วันนี้ เราเป็นมากกว่าบริษัทที่ให้บริการด้านระบบขนส่งมวลชน (Beyond Transportation Company) ภายใต้กลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH ทำให้เราสามารถขยายไปสู่ธุรกิจที่มีความหลากหลาย มีศักยภาพในการเติบโต สอดรับกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคดิจิทัล ซึ่งเรามั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจด้วยรูปแบบดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และจะช่วยยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและมั่นใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าว 

บีทีเอส กรุ๊ปฯ ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน โดยได้รับการประกาศให้เป็นบริษัทด้านธุรกิจคมนาคมที่มีความยั่งยืนเป็นอันดับ 1 ของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจาก S&P Global ถือเป็นบริษัทในกลุ่มผู้นำ 1% แรกของกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ที่ได้รับการประกาศในรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook ประจำปี 2023 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล และสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บีทีเอส กรุ๊ปฯ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้

  1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
  2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
  3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (https://www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
  4. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ** โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ SCB EASY สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
  5. ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ CIMB Thai Digital Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
  6. บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) *** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
    *ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
    **ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
    ***ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)