บีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้รับการจัดอันดับความยั่งยืนขององค์กรในระดับ “Gold Class” จาก S&P Global

กลับ

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืน ขององค์กรจาก S&P Global ในระดับ “Gold Class” ในกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซึ่ง “Gold Class” เป็นระดับสูงสุดในการประเมิน อีกทั้งได้รับการประกาศเผยแพร่ไว้ใน The Sustainability Yearbook 2022 โดยในทุกๆ ปี S&P Global ทำการประเมินผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางด้าน ESG หรือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) ของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก จากนั้นจึงจัดลำดับรางวัลเป็น Gold, Silver และ Bronze Class ให้แต่ละบริษัทตามผลงานทางด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่โดดเด่น ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม โดยในปีนี้ S&P ได้ทำการประเมินบริษัทต่างๆ ทั่วโลกกว่า 7,500 บริษัท ใน 61 อุตสาหกรรม และมีเพียง 75 บริษัท หรือคิดเป็นเพียง 1% ของบริษัททั้งหมดที่ถูกประเมินเท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืนขององค์กรระดับ “Gold Class”

โดยใน The Sustainability Yearbook 2022 มีบริษัทที่ได้รับรางวัลในระดับ “Gold Class” จำนวน 75 แห่ง บริษัทที่ได้รับรางวัลในระดับ “Silver Class” จำนวน 89 แห่ง และบริษัทที่ได้รับรางวัลในระดับ “Bronze Class” จำนวน 106 แห่ง ทั้งนี้ หากมองในระดับประเทศ มีบริษัทในประเทศไทยได้รับการประกาศเผยแพร่ใน The Sustainability Yearbook 2022 ถึง 41 บริษัท นับว่าเป็นประเทศที่มีบริษัทได้รับการประเมินมากที่สุดเป็น อันดับ 4 ของโลก จากทั้งหมด 44 ประเทศ และจาก 41 บริษัทไทยใน The Sustainability Yearbook 2022 มี 8 บริษัท ที่ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืนขององค์กรในระดับ “Gold Class” โดย “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” เป็นบริษัทด้านคมนาคมขนส่งทางรางแห่งเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ ส่วนประเทศที่มีบริษัทได้รับการประกาศเผยแพร่ใน The Sustainability Yearbook 2022 มากที่สุดเป็นอันดับ 1 – 3 ได้แก่ กลุ่มบริษัทในสหรัฐอเมริกาจำนวน 111 บริษัท, กลุ่มบริษัทในญี่ปุ่นจำนวน 83 บริษัท, กลุ่มบริษัทในสาธารณรัฐเกาหลี 43 บริษัท

“บีทีเอส กรุ๊ปฯ” มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามมาตรฐานทาง ESG อย่างสูงสุด ภายใต้กลยุทธ์ 3M หรือ MOVE MIX และ MATCH โดยธุรกิจรถไฟฟ้าช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินทางในรูปแบบที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ ลดมลพิษและความแออัดของการจราจรบนถนน บริษัทฯ ยังคงขยายเครือข่ายรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองบางส่วนภายในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขยายไปสู่ธุรกิจขนส่งอื่นๆ ภายใต้ธุรกิจ MOVE ในรูปแบบ “door-to-door”